เปิดตัวสุดยอดเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์ APEX ระดับเรือธง เขย่าวงการเครื่องเสียงโลก โดย Gryphon Audio Designs

Gryphon Audio Designs แบรนด์เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ ผู้สร้างสรรค์วงจรไฮ-ไฟเดลิตี้ ภูมิใจนำเสนอเครื่องเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์รุ่น Apex สุดยอดเครื่องขยายสัญญาณเสียงระดับเรือธงรุ่นล่าสุด ที่ให้ประสบการณ์การฟังเพลงด้วยสมรรถนะระดับสูงสุด ยกระดับเครื่องเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์ข้ามผ่านข้อจำกัดที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน Gryphon Audio Designs เดินหน้าในการสานต่อพันธกิจสำคัญในการสร้างสรรค์อุปกรณ์ให้มีคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด ไม่สำคัญว่าต้นทุนการผลิตจะมีมูลค่าเท่าไหร่ การเปิดตัวเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์รุ่น Apex ด้วยระบบ Mono และ Stereo เป็นสัญลักษณ์สำคัญ ว่าทางแบรนด์ได้ยกระดับเครื่องเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์วงจรคลาส A ขนานแท้ ให้เป็นวงจรขยายแบบคลาส A ที่สามารถก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดของวงจรขยายรูปแบบนี้ ชนิดที่ไม่เคยมีใครจินตนาการว่าสามารถทำได้มาก่อน ระยะเวลาหลายแรมปีในการพัฒนาเครื่องเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์ Antileon EVO และ Mephisto เครื่อง Reference ในการนำอุปกรณ์อื่นๆในคลังมาทำการสอบเทียบ รวมถึงอีกหลายโปรเจ็กต์ที่ทางแบรนด์ยังคงไม่หยุดพัฒนาในการวิจัยเรื่องวงจรโทโพโลยี (Circuit Topology) ค่าความน่าเชื่อถือได้และคุณภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้า (Component Quality and Reliability) ทำให้ทางแบรนด์สามารถนำส่วนที่ดีที่สุดของการค้นพบมาเสริมใส่ไว้ในเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์รุ่น Apex นี้ ให้สมกับการเป็นเครื่องเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์รุ่นเรือธงรุ่นใหม่ของ Gryphon

เพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์รุ่น APEX กับการดีไซน์ที่ไม่นำต้นทุนมาเป็นข้อจำกัด (Cost-No-Object)

หากพิจารณาจากข้อกำหนดเฉพาะ (Material Specifications) ของเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์ Apex ก็ช่วยทำให้ประจักษ์แล้วว่านี่คือ การดีไซน์ที่ไม่นำต้นทุนมาเป็นข้อจำกัด เป็นการดีไซน์ในรูปแบบ Cost-No-Object ที่แท้จริง โดยหากเปิดฝาครอบเครื่องเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์ด้านบนจะเห็นว่า Apex แบบโมโนบล็อกใช้ไบโพลาร์เอาต์พุตทรานซิสเตอร์จำนวนมากถึง 128 ตัว มาเรียงในเเนวเฉียงอย่างพร้อมเพรียงสวยงาม (ข้างละ 64 ชุดตัว) เก็บประจุได้มากถึง 2,080,000 ไมโครฟารัด (มากกว่า 2 ฟารัด) ด้วยตัวเก็บประจุขนาดมากกว่า 1 ฟารัดต่อข้าง ด้วยหม้อแปลงเทอร์รอยด์ชนิดพิเศษแบบ Custom Made ขนาด 2,000 VA จำนวน 4 ตัว (2 ตัวต่อแชนแนล) โดยทุกชิ้นส่วนในวงจรประกอบร่างในรูปแบบของงานคราฟต์ทันสมัยที่สุดแสนวิจิตร บนแชสซีที่ติดตั้งเทคโนโลยี Constrained-Layer- Damped เครื่องเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์รุ่น Apex แบบสเตอริโอ มีน้ำหนักอยู่ที่ 450 ปอนด์ ขณะที่โมโนบล็อกของ Apex จะมีน้ำหนักรวมกันอยู่ที่คู่ละ 900 ปอนด์

เพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์รุ่น APEX กำลังขับสุดล้ำ รีดความสามารถของลำโพงที่ “ขับยาก” ได้อย่างไร้ข้อกังขา

เพราะ “กำลังขับ” คือใจความสำคัญที่บ่งบอกทุกอย่างเกี่ยวกับเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์ โมโนบล็อก Apex ให้กำลังขับอยู่ที่ 1800 วัตต์ (RMS) ต่อโหลด 1 โอห์ม สามารถรีดความสามารถของลำโพงที่ขึ้นชื่อว่า “ขับยาก” ออกมาได้เต็มที่ได้อย่างไร้ข้อกังขา เนื่องจากตัวเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์มีขุมกำลังสำรองขนาดใหญ่รองรับอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเครื่องเพาเวอร์แอมป์รุ่นเรือธงรุ่นใหม่ของ Gryphon ตัวนี้ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมองเห็นโหลดของลำโพงที่มาจับคู่ด้วย กล่าวคือ กำลังขับและกระเเสจำนวนมหาศาลที่สำรองอยู่ในตัวเครื่องจะสามารถตอบสนองได้ตามคุณลักษณะของลำโพงทุกชนิดที่เลือกใช้ได้อย่างแม่นยำในทุกย่านความถี่ แม้ว่าเครื่องขยายสัญญาณเสียงกำลังสูงจะมีให้เห็นจนชินตา สิ่งที่เพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์ Apex สามารถทำได้เหนือกว่า คือ ทางวิศวกรได้พัฒนาวงจรขยายแบบคลาส A ขนานเเท้ในตัวเครื่องให้ก้าวล้ำเทคโนโลยีในปัจจุบัน โดยทุกครั้งที่เราใช้คำว่าเป็นการดีไซน์ที่ไม่ประนีประนอม วงจรขยายแบบคลาส A ของเราจำเป็นต้องเป็นวงจรที่ดีที่สุดเท่านั้น เมื่อนำพละกำลังขับขนาดมหึมา ความละเอียดประณีตระดับช่างฝีมือ และความนุ่มนวลในการนำเสนอความเป็นดนตรีมาประกอบกัน จึงได้คำตอบว่า ทำไมเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์ Apex ถึงเป็นเครื่องเพาเวอร์แอมป์ที่เหนือระดับกว่าแอมป์ตัวอื่นๆในวงการ

ดื่มด่ำอรรถรสการฟังในระดับสูงสุดและรักษาสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน กับ เพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์รุ่น APEX

นับตั้งแต่ Gryphon ได้ทำการเปิดตัวเครื่องเพาเวอร์แอมป์ระดับตำนานอย่าง DM100 ในปี ค.ศ.1991 วงจรขยายแบบคลาส A ขนานแท้ก็กลายเป็น Signature ของทางแบรนด์ ที่เมื่อไหร่นึกถึง Gryphon ก็จะต้องนึกถึงวงจรขยายแบบคลาส A เท่านั้น เป็นโทโพโลยีของวงจรขยายเสียงที่สมบูรณ์แบบด้วยความเพี้ยนต่ำและให้คุณภาพเสียงสูง หรือ Sonic Perfection แบบที่วงจรขยายเสียงประเภทอื่นไม่สามารถทัดเทียมได้ แม้ว่าในปัจจุบันจะมี “วงจรขยายเสียงแบบคลาส A รูปแบบใหม่” จำนวนมากปรากฎขึ้นมา โดยอาศัยหลักการของ ‘ค่าไบอัสอัตโนมัติ’ ให้เครื่องแอมป์พลิฟายเออร์จับสัญญาณได้เองว่า ในสถานการณ์ไหนควรจะปรับค่าไบอัสให้เพิ่มขึ้นเพื่อให้วงจรทำงานต่อเนื่องตลอดเวลาในรูปแบบวงจรขยายแบบคลาส A ได้ อย่างไรก็ตาม หากนำกฏฟิสิกส์มาพิจารณา จะเห็นว่าถึงค่าไบอัสจะปรับได้ตามอัตโนมัติอย่างว่องไวเพียงใด ก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าค่าที่ได้จะแม่นยำที่สุดเสมอไป และไม่มีเครื่องเสียงชนิดไหนที่พิสูจน์ออกมาแล้วว่า สามารถทำงานโกงหลักฟิสิกส์ได้ Gryphon จึงได้จัดทำการวิจัยเพื่อพัฒนาสมรรถนะการทำงานของวงจรขยายเสียงแบบคลาส A โดยอาศัยโทโพโลยีของวงจรคลาสแบบคลาส AB เข้ามา พบว่าไม่มีทางลัดสู่คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด นอกจากการเลือกใช้วงจรขยายเสียงแบบคลาส A ขนานเเท้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์อย่างเจาะลึกถึงลักษณะการฟังเพลงโดยทั่วไป Gryphon ได้คิดค้นภาค Green Bias ขึ้นมา โดยคำว่า Green ในภาคพิเศษนี้ เป็นการบอกใบ้ว่าผู้ใช้สามารถดื่มด่ำอรรถรสการฟังในระดับสูงสุด ด้วยวงจรขยายเสียงแบบคลาส A แบบแท้ๆ ขณะที่ยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากความร้อนและพลังงานจำนวนมหาศาลที่เกิดจากวงจรขยายประเภทนี้ได้ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากการเปิดใช้งานในภาค Green Bias จะลดการบริโภคกระเเสของตัวเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ Green Bias ในเครื่องเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์ รุ่น Gryphon Apex ออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถเลือกน้ำหนักของระดับพลังขับของวงจรขยายแบบคลาส A ในการขับเคลื่อนลำโพงคู่ใจได้ตามใจชอบ อิงจากตัวแปรอื่นๆ อาทิ ค่าความไวของลำโพง (Speaker Sensitivity) ขนาดของห้องฟังเพลง (Room Size) ไดนามิกส์ของดนตรี (Musical Dynamics) และระดับความดังโดยรวม (Overall Volume Level) โดยการเชื่อมต่อภาค Green Bias จะเปิดช่องให้ผู้ใช้สามารถเลือกให้เครื่องปรีแอมป์พลิฟายเออร์เข้ามาทำกับกำหนดควบคุมกระเเสไบอัสของเครื่องได้โดยอัตโนมัติอีกด้วย

เพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์รุ่น APEX ความคุ้มค่า ในราคาที่เหมาะสม

หากนำ Gryphon Apex มาเปรียบเทียบกับเครื่องเพาเวอร์แอมป์อื่นๆใน Range ราคาเดียวกัน สิ่งที่ทำให้เพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์ Apex คุ้มค่า สมราคามากกว่า คือ การใช้ทรานฟอร์เมอร์อิสระ และเพาเวอร์ซัพพลายแบบลิเนียร์ (Linear Power Supply) หรือที่รู้จักกันในชื่อแหล่งจ่ายไฟเชิงเส้นที่ทำงานอย่างมีเสถียรภาพ ด้วยสัญญาณรบกวนที่ต่ำกว่าเพาเวอร์ซัพพลายแบบสวิตช์ทั่วไป เพื่อช่วยป้องกัน Digital Noise จากที่อาจปนเปื้อนเข้ามาในวงจรขยายเสียงได้ Speaker Terminal ทางด้านหลังของเครื่องผ่านการจดสิทธิบัตรใหม่ รองรับทั้งสายเปลือย (Bare Wire) หางปลา (Spade Lugs) ปลั๊กบานาน่า (Banana Connectors) และขั้วต่อผสมทุกชนิด แชสซีที่สวยงามสไตล์ Nordic Noir สีดำขลับ แลดูลึกลับ ซ่อนเงื่อนความซับซ้อนชวนให้หลงใหลแต่ใช้งานได้ง่ายดาย ติดตั้งเทคโนโลยีพิเศษที่ชื่อว่า Constrained-Layer-Damping เพื่อใช้ปรับความถี่เรโซแนนซ์ โดยวัสดุทุกชิ้นที่เลือกใช้ มีสมบัติซึ่งไม่ดูดกับแม่เหล็ก (Non-Magnetic Material) จึงช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทุกๆรายละเอียดทั้งด้าน Design และ Construction ของเครื่องเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์ รุ่นเรือธงรุ่นใหม่ช่วยตอกย้ำให้เห็นว่า Gryphon Apex คือเครื่องเพาเวอร์แอมป์พลิฟายเออร์ ที่สามารถส่งมอบสมรรถนะการทำงานในระดับที่ไม่มีเครื่องเสียงชนิดใดสามารถมาเทียบได้ ไม่ใช่เพียงแค่ช่วงสั้นๆก่อนจะเปิดตัวเครื่องใหม่เท่านั้น แต่เป็นคำยืนยันที่สื่อความหมายสั้นๆแต่ได้ใจความ ด้วยคำว่า ‘ตราบนานเท่านาน’